ภาพรวมระบบ Team Pool

Team Pool คือระบบจัดการบัญชีแบบรวมศูนย์ (Centralized Account Management) ที่รวมบัญชีทั้งหมดไว้ใน Pool กลาง แทนที่จะแยกจัดการตาม User แต่ละคนแบบเดิม

ระบบแบ่งการทำงานออกเป็น 2 ขั้นตอนอัตโนมัติที่ทำงานสัมพันธ์กัน โดย Level Mode จะรับบัญชีใหม่มาเก็บ Shards ด้วย Tool Common จนครบ Level ที่กำหนด จากนั้น Miner Mode จะรับบัญชีที่พร้อมแล้วมาขุดต่อเนื่องด้วย Tool Rare+ แบบ HIT & RUN

ระบบยังมีกลไกพิเศษที่ทำงานอัตโนมัติทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการสร้างบัญชีใหม่เติมเข้าระบบเมื่อมีช่องว่าง (Auto-Fill), การเก็บบัญชีรอ Cooldown ก่อนส่งต่อ (Store Account), การคำนวณเวลา Claim ให้หลบช่วง Ban Wave (Ban Wave Protection), การกู้คืนทรัพยากรกลับ Master Key เมื่อถูก Ban (Clear on Ban) และการแทนที่บัญชีที่มีปัญหาด้วยบัญชีใหม่ทันที (Auto-Replace)

จุดประสงค์หลักของระบบ

  • รวมบัญชีทั้งหมดไว้ที่ศูนย์กลาง ทำให้จัดการง่ายและมีประสิทธิภาพ
  • แยกการทำงานเป็น 2 ขั้นตอน: เก็บ Levelขุด Miner
  • สร้างและเติมบัญชีใหม่อัตโนมัติเมื่อมีช่องว่าง
  • ป้องกันบัญชีจากการถูก Ban และกู้คืนทรัพยากรอัตโนมัติ

หลักการทำงาน

  • Level Mode รับบัญชีใหม่ → ขุดด้วย Tool Common → เก็บ Shards จนครบ Level → คงไว้ในระบบหรือส่งไป Store (ขึ้นกับการตั้งค่า)
  • Miner Mode รับบัญชีจาก Store หรือ Pool → ขุดต่อด้วย Tool Rare+ → HIT & RUN ต่อเนื่อง
  • ระบบ Auto-Fill คอยสร้างบัญชีใหม่เติมเข้ามาตลอดเวลา
  • ระบบป้องกันและกู้คืนทรัพยากรทำงานควบคู่กันตลอด

ระบบแบ่งออกเป็น 2 โหมดหลักที่ทำงานสัมพันธ์กัน

Level Mode - ใช้ Tool: Common เก็บเลเวลตาม Rare Type
Miner Mode - ใช้ Tool: Rare+ รับบัญชีจาก Store มาขุดต่อ

แผนภาพการทำงานของระบบ

Team Pool
Level Mode
Miner Mode
Store Account
Auto-Fill
Ban Wave Protection
Clear on Ban
Master Key
ติดเงื่อนไข

เริ่มต้นใช้งานระบบ (Getting Started)

เพื่อให้ระบบ Team Pool เริ่มทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ควรปฏิบัติตามลำดับขั้นตอนดังนี้:

1

เตรียมความพร้อม (Prerequisites)

ตรวจสอบความพร้อมก่อนเริ่มใช้งาน:

  • Master Key:
    • ต้องมี WAX Balance > 5 WAX
    • ชื่อบัญชีต้องไม่มี .wam
    • ต้องเพิ่ม Master Key เข้าระบบเสมือนบัญชีใช้งานปกติ
  • บัญชีที่ Team Pool จะดึงไปใช้:
    • บัญชีต้องผ่านการ Register แล้ว
    • สถานะ I/O ต้องเปิด (On)
    • มี Tool ตรงตามชุดที่ทีมกำหนด
2

ตั้งค่าทีม (Configuration)

วิธีเข้าถึงหน้าตั้งค่า:

  1. Login เข้า Pool
  2. ปลด TOTP 2FA
  3. กดปุ่ม TEAM POOL CONFIG เพื่อเปิดหน้าต่างตั้งค่า
  4. กดปุ่ม CREATE NEW TEAM เพื่อสร้าง Team Pool ใหม่

กำหนดค่าโหมดการทำงาน:

  • ENABLE: ติ๊กถูกเพื่อเปิดใช้งาน Team Pool นี้ (หากไม่ติ๊ก ทีมจะไม่ทำงาน)
  • MODE: เลือกโหมดการทำงาน
    • Level - เก็บเลเวลบัญชี
    • Miner - ขุดต่อเนื่อง
  • RARE TYPE: กำหนดระดับความหายากเป้าหมาย (Rare / Epic / Legendary / Mythical)
  • TOOL CONFIG: เลือก Tool ที่ใช้ (Common / Rare / Epic / Legendary / Mythical) ใน Team และ Mode ให้เหมาะสม
  • WALLET TYPE: เลือกประเภท Wallet (WCW / ANC)
  • MINING HOURS: กำหนดชั่วโมงการขุด

TEAM POOL STORE: ปุ่มนี้จะเปิดหน้าต่างใหม่ (Modal) สำหรับดูรายการบัญชีที่เก็บอยู่ในฐานข้อมูล รอคิวขุดต่อ

3

เพิ่มบัญชีเริ่มต้น (Seeding)

กระตุ้นให้ระบบเริ่มทำงาน:

  • เพิ่ม Master Key เข้าระบบ: ต้องเพิ่ม Master Key เข้าระบบแบบการเพิ่มบัญชีปกติก่อน (ผ่านหน้าลงทะเบียน)
  • เพิ่มบัญชีด้วยตนเอง (Seed) อย่างน้อย 1–2 บัญชี เข้าใน Pool หรือ Store
  • การทำเช่นนี้จะช่วยให้ระบบเริ่ม Loop การทำงานทันที ระหว่างที่ระบบ Auto-Fill กำลังตรวจสอบความพร้อม

สำหรับบัญชีที่เพิ่มด้วยตนเอง: ต้องโอน WAX เข้าบัญชีเองก่อน เพราะบอทจะไม่โอน WAX หรือจัดการทรัพยากรให้หากบัญชีไม่ได้ถูกสร้างผ่านระบบ Team Pool

สร้างบัญชีอัตโนมัติ: หากตั้งค่า Team Pool และเปิด Auto-Fill ไว้ ระบบจะสร้างบัญชีใหม่และจัดการ WAX ให้อัตโนมัติ ตามเงื่อนไขของ Manage Fill Account

4

เริ่มทำงานและขยายตัว (Activation)

ปล่อยให้ระบบดำเนินการอัตโนมัติ:

  • Expansion: หากเปิด Auto-Fill ระบบจะตรวจสอบและสร้างบัญชีเพิ่มเองเมื่อพบช่องว่าง และมีบัญชีในระบบแล้วอย่างน้อย 2 บัญชี
  • Lifecycle: ระบบจะเข้าสู่ Loop เต็มรูปแบบ: ขุด > เก็บ Level > ส่งต่อ > หมุนเวียนบัญชีใหม่อย่างต่อเนื่อง

เงื่อนไขการเลือกบัญชีเข้าระบบ Team Pool

เงื่อนไขบัญชีที่ Team Pool จะดึงไปใช้

บัญชีต้องผ่านการ Register แล้ว - บัญชีต้องลงทะเบียนในระบบเรียบร้อย

สถานะ I/O ต้องเปิด (On) - บัญชีต้องไม่ถูกสั่งหยุดการทำงาน

มี Tool ตรงตามชุดที่ทีมกำหนด - บัญชีต้องไม่มี Tool ใด ๆ ที่อยู่นอกเหนือจากชุดที่ Team Pool กำหนดไว้ หากมี Tool อื่นปะปนจะไม่ถูกดึงเข้าระบบ

Wallet Type: WCW (WAX CLOUD WALLET)

การตั้งค่า ค่าที่ต้องการ หมายเหตุ
Make Trust ✅ เปิด จำเป็นต้องเปิดเพื่อให้บัญชีทำงานกับ Team Pool
Headless ❌ ปิด ต้องปิด Headless สำหรับ WCW
Stake CPU/NET (Self) ❌ ไม่ใช้ ไม่รับบัญชีที่ stake CPU/NET เอง; ใช้ PowerUp หรือ Stake โดยบัญชีอื่นได้ ระบบออกแบบมาให้ไม่ต้อง Stake บนบัญชีนั้น ๆ อาศัยเทคนิคพิเศษอื่น ๆ ทดแทน
ใช้ร่วมกับ Master Key ❌ ไม่ได้ บัญชี WCW ใช้ร่วมกับ Master Key ไม่ได้

บัญชี WCW ที่จะใช้งานกับ Team Pool (ทั้ง Level Mode และ Miner Mode) ต้องเปิด Make Trust และห้ามเปิด Headless

Wallet Type: ANC (ANCHOR SELF WALLET)

  • ใช้การตั้งค่าตาม Anchor Wallet มาตรฐาน

ฟีเจอร์ควบคุมรอบขุดและการแทนที่บัญชี

Automatic replace account

แทนที่บัญชีอัตโนมัติเมื่อบัญชีปัจจุบันถูก flag หรือมีปัญหา

  • Miner Mode: เปิดเสมอ - แทนที่บัญชีอัตโนมัติเมื่อถูก flag/มีปัญหา และสร้างบัญชีใหม่มาแทนที่ทันที
  • Level Mode: ปิดเสมอ - ไม่มีกลไกโดยตรง แต่ได้รับบัญชีใหม่จากที่ Miner Mode สร้างมาเพื่อเก็บเลเวลแล้ววนกลับไป Miner Mode ต่อไป
  • รองรับ Wallet: WCW และ ANC

Mine by can end hours cycle with claim only

ระบบตรวจสอบบัญชีใน Team Pool list ว่ามีบัญชีไหนที่ Claim Cooldown จบแล้ว สามารถนำไปขุดและเคลมได้ตามรอบ Wave Ban Cycle

  • Miner Mode: เปิดเสมอ - ใช้ค่า Cooldown Mine ล่าสุดคำนวณเพื่อให้เคลมทันจบรอบ (มีผลโดยตรงกับ Miner Mode)
  • Level Mode: ปิดเสมอ - ไม่มีกลไกที่เกี่ยวข้อง
  • ผลลัพธ์: เลือกบัญชีที่พร้อมขุดและเคลมได้ตรงจบ cycle ที่กำหนด หลีกเลี่ยงช่วง Ban Wave

Clear CPU/NET/RAM/NFT on ban, to master key

เคลียร์ทรัพยากรเมื่อบัญชีถูกแบน

  • Miner Mode: โอนทรัพยากรกลับ Master Key อัตโนมัติเมื่อถูกแบน
  • Level Mode: ปิดไว้เสมอ แต่หากถูกแบน ระบบจะยังเคลียร์บัญชีอัตโนมัติ (เป็นกลไกพื้นฐานของ Team Pool)

Backup account for Miner pick later

เก็บบัญชีใน Store เพื่อส่งต่อให้ Miner Mode

  • Level Mode: เมื่อขุดครบเลเวลจะเก็บเข้า Store รอพ้น Claim Cooldown แล้วส่งต่อ
  • Miner Mode: ไม่มีกลไกโดยตรง แต่ได้รับบัญชีที่ Level Mode ส่งเข้า Store มาขุดต่อ
  • เงื่อนไขสำคัญ: ต้องมี Miner Mode อย่างน้อย 1 ทีมที่เปิดใช้งานและมี Wallet Type + Rare Type ตรงกัน จึงจะเก็บบัญชีเข้า Store ได้

Automatic Manage Fill Account (Auto-Fill)

ระบบจัดการวงจรชีวิตบัญชีแบบอัตโนมัติที่ครอบคลุม 3 กลไกสำคัญ: การเติมบัญชี (Fill), การส่งต่อ (Save), และการหมุนเวียน (Replace)

1. Auto-Fill (เติมบัญชี)

Manage Fill List: สร้างบัญชีใหม่เติมเข้า Pool เมื่อขาดแคลน

  • ทำงานเมื่อ Miner/Level ขาดบัญชี
  • ต้องมีช่องว่างในบอท ≥ 2 ช่อง
  • Master Key ต้องพร้อม (WAX > 5)
  • มีบัญชีในระบบแล้วอย่างน้อย 2 บัญชี
2. Auto-Save (ส่งต่อ)

Manage Save List: จัดการบัญชีที่เก็บ Level ครบแล้ว

  • ย้ายจาก Level Mode เข้า Store
  • รอพ้น Claim Cooldown (Lock time)
  • เตรียมพร้อมส่งต่อให้ Miner Mode
  • ต้องมี Miner Mode ที่ตรง Wallet Type + Rare Type
3. Auto-Replace (หมุนเวียน)

Manage Wait/Open List: หมุนเวียนบัญชีใน Miner Mode

  • ทำงานเมื่อจบรอบ Mining Cycle
  • หลบ Ban Wave ตามกำหนด
  • สร้าง/ดึงบัญชีใหม่มาขุดต่อทันที

เงื่อนไขการทำงาน Auto-Fill:

ระบบจะสร้างบัญชี WCW ใหม่อัตโนมัติเมื่อครบทุกเงื่อนไขต่อไปนี้:

  • Master Key มี WAX เพียงพอ: WAX Balance > 5
  • Master Key ไม่ใช่บัญชี .wam: ชื่อบัญชีต้องไม่มี .wam (ต้องเป็นบัญชี Anchor)
  • มีช่องว่าง: ช่องว่างในบอท ≥ 2 ช่อง (จากจำนวนสูงสุดที่ Pool รองรับ - Max ID Pool)
  • มีบัญชีในระบบแล้ว: ต้องมีบัญชีในระบบแล้วอย่างน้อย 2 บัญชี
  • Miner Mode ขาดบัญชี: ต้องมีอย่างน้อย 1 ทีมที่เปิด Automatic replace account และไม่มีบัญชีพร้อมใช้ (ไม่มีบัญชีใน List หรือทุกบัญชียังติด Claim Cooldown)
  • Level Mode ขาดบัญชี: ต้องมีอย่างน้อย 1 ทีมที่เปิด Backup account for Miner pick later และไม่มีบัญชีใน List
  • ทุกทีมพร้อม: ทีมทั้งหมดที่เปิดตัวเลือกข้างต้นต้องมีสถานะพร้อมทำงานครบทุกทีม
  • ไม่มีงานสร้างค้าง: ระบบสร้างบัญชี WCW ต้องไม่มีงานสร้างค้างอยู่เกิน 2 งาน

กล่าวคือ: ต้องมีทั้ง Miner Mode (เปิด Automatic replace account) และ Level Mode (เปิด Backup account for Miner pick later) ที่ขาดบัญชีพร้อมกัน และระบบสร้างบัญชีไม่มีงานค้าง จึงจะสร้างบัญชีใหม่

TEAM POOL CONFIG - Demo Interface

INTERACTIVE DEMO - ลองทดสอบการตั้งค่าได้เลย!
TEAM POOL CONFIG
ENABLE
TEAM ID
MODE
TYPE
CONFIG Level Mode
MINING HOURS
RARE TYPE
WALLET TYPE
MIN. CLAIM
Mine by can end hours cycle with claim only.
Automatic replace account.
Clear cpu/net/ram/nft on ban, to master key.
Backup account for Miner pick later.
TOOL CONFIG
01 TOOL
Standard Drill
02 TOOL
Standard Drill
03 TOOL
Standard Drill
EVENT LOG
MINE CONFIG
JUMP
MOVE
RATE MODE
COST MINE
MASTER KEY
SETLAND
Eyeke
Kavian
Magor
Naron
Neri
Veles

คำอธิบายส่วนประกอบหลัก

TEAM ID

รหัสทีมที่สร้างจาก Asset ID ของ Tool ทั้ง 3 ตัว เช่น 919986588,919986600,919986749

MODE

Level = เก็บ Shards สะสม Level, Miner = ขุด TLM เป็นหลัก

TOOL CONFIG

เลือก Tool NFT จาก Wallet สูงสุด 3 ตัวต่อ 1 ทีม

MINE CONFIG

ตั้งค่าเพิ่มเติม: JUMP (ข้าม Land), MOVE (ย้าย Planet), RATE MODE (โหมดเร่ง)

ลองเปลี่ยน MODE ดู!

Level Mode: Feature toggles 3 ตัวแรกจะถูก lock (ปิดเสมอ) | Miner Mode: Feature toggles 3 ตัวแรกจะถูก lock (เปิดเสมอ) และ Backup จะปิด

Level Mode

Level Mode

วัตถุประสงค์

Level Mode ออกแบบมาสำหรับการเก็บเลเวลบัญชี โดยใช้ Tool ระดับ Common ในการขุด Shards ให้ถึงระดับที่กำหนดไว้ เช่น Rare หรือ Epic จากนั้นจะนำบัญชีออกไปเก็บไว้ใน Store เพื่อส่งต่อให้ Miner Mode ใช้งานต่อ

การตั้งค่าหลัก

TOOL LEVEL

  • ใช้ Tool ระดับ Common เท่านั้น
  • เหมาะสำหรับการเก็บ Shards ในช่วงเริ่มต้น
  • บัญชีที่ครบ Level จะส่งต่อไป Miner Mode

RARE TYPE

  • กำหนดระดับความหายากที่ต้องการเก็บ
  • มี 4 ระดับ: Rare, Epic, Legendary, Mythical
  • ระดับสูงกว่าต้องใช้ Shards มากกว่า (ดูตารางด้านล่าง)

WALLET TYPE

  • WCW : WAX CLOUD WALLET
  • ANC : ANCHOR SELF WALLET

ตัวเลือก MINING HOURS

[W] Skip time over check (แนะนำ)

  • ข้ามการตรวจสอบเวลา
  • ขุดจนกว่า Shards จะครบตาม Level ที่กำหนด
  • ไม่มีเงื่อนไขเวลา - ไม่ต้องรอครบชั่วโมง
  • เหมาะสำหรับการเก็บ Level อย่างรวดเร็ว

กำหนดชั่วโมง (4-504)

  • ขุดจนกว่า Shards จะครบตาม Level ที่กำหนด
  • และต้องขุดให้ครบตามชั่วโมงที่กำหนดด้วย
  • ตัวเลือก: 4, 6, 8, 10, 12, 14, 16, 18, 20, 22, 24, 48, 96, 168, 336, 504 ชั่วโมง

การตั้งค่าที่กำหนดตายตัว

การตั้งค่าที่ปิดเสมอใน Level Mode

การตั้งค่า สถานะ เหตุผล
Mine by can end hours cycle with claim only ❌ ปิดเสมอ ไม่มีปัจจัยที่ต้องทำงานในเงื่อนไขนี้สำหรับ Level Mode
Automatic replace account ❌ ปิดเสมอ Level Mode ไม่ทำงานแทนที่อัตโนมัติ เพราะส่งต่อบัญชีไป Miner Mode หลังเก็บเลเวลครบ
Clear CPU/NET/RAM/NFT on ban, to master key ❌ ปิดเสมอ ไม่มีการทำงานจนจบด้วยการปล่อยให้บัญชีแบนในขั้นตอนสุดท้ายก่อนเคลม Reward; ระบบยังเคลียร์ให้เมื่อถูก Flag

ตาราง Shards ที่ต้องการต่อ Level

Rare
284
Epic
965
Legendary
2,843
Mythical
7,853

กลไก ลำดับและขั้นตอนการทำงาน

1
บัญชีขุดต่อเนื่อง (ไม่สนใจเวลา)
2
เก็บ Shards จนครบตาม Level ที่กำหนด
3
นำบัญชีออกไปเก็บไว้ (Store) โดยไม่จองช่องบอท
4
ช่องว่างในบอทเพิ่มขึ้น
5
ระบบสร้างบัญชีใหม่และเพิ่มเข้ามาอัตโนมัติ
6
วนรอบ Loop กลับไปขั้นตอนที่ 1

ระบบ Store Account (ตัวเลือกเสริม)

Backup account for Miner pick later

  • เป็นตัวเลือกที่ตั้งค่าได้ใน Level Mode เท่านั้น
  • เปิด (True): นำบัญชีไปเก็บใน Store รอให้ Claim Cooldown หมดก่อน แล้วนำกลับเข้ามาเมื่อถึงเวลาพร้อมขุดต่อใน Miner Mode
  • ปิด (False): ไม่เปิดการทำงานนี้ บัญชียังคงอยู่ในระบบ ไม่ถูกย้ายไป Store

เมื่อเปิดใช้งาน ระบบจะทำงานดังนี้:

1
เมื่อขุด Shards ครบ บัญชีจะถูกย้ายออกจาก Running Process
2
เก็บไว้ใน Server (Store) จนพ้น Claim Cooldown
3
เมื่อครบเวลา ระบบนำกลับเข้ามาให้ Miner Mode เลือกขุดต่อ
4
เพิ่มช่องว่าง ไม่จองช่องบอทโดยไม่จำเป็น
5
สร้างบัญชีใหม่ ระบบเพิ่มบัญชีเข้ามาอัตโนมัติ

จุดเด่น

  • ควบคุมคุณภาพตามระดับ Rare Type ได้
  • จัดกลุ่มบัญชีตามความสามารถได้ง่าย
  • มีระบบ Store Account เพื่อไม่จองช่องบอท
  • รองรับการสร้างบัญชีใหม่อัตโนมัติ

Miner Mode

Miner Mode

วัตถุประสงค์

Miner Mode ออกแบบมาเพื่อรับช่วงการขุดต่อจาก Level Mode โดยใช้ Tool ระดับ Rare ขึ้นไป ในการขุดต่อเนื่องตามระยะเวลาที่กำหนด พร้อมระบบสำรองบัญชีสำหรับใช้งานในภายหลัง

การตั้งค่าหลัก

TOOL LEVEL

  • ใช้ Tool Rare, Epic, Legendary, Mythical
  • รับบัญชีที่ผ่านการเก็บ Level จาก Level Mode แล้ว

RARE TYPE

  • กำหนดระดับความหายากที่ Team นี้จะรับบัญชีมาขุด
  • เป็นการกำหนดว่า Miner จะเลือกบัญชีใดเข้ามาในทีม โดยพิจารณาจากระดับที่ตั้งไว้และ matching จากคะแนนของบัญชี
  • มี 4 ระดับ: Rare, Epic, Legendary, Mythical

WALLET TYPE

  • WCW : WAX CLOUD WALLET
  • ANC : ANCHOR SELF WALLET

การตั้งค่าที่กำหนดตายตัว

การตั้งค่าที่เปิด/ปิดเสมอใน Miner Mode

การตั้งค่า สถานะ เหตุผล
Mine by can end hours cycle with claim only ✅ เปิดเสมอ กลไกช่วยให้เคลมตรงจบ cycle ตามค่า Cooldown ล่าสุด
Automatic replace account ✅ เปิดเสมอ แทนที่บัญชีเมื่อถูก flag/มีปัญหา อัตโนมัติ
Clear CPU/NET/RAM/NFT on ban, to master key ✅ เปิดเสมอ ระบบจะเคลม Reward ก่อนแบนและเคลียร์ทรัพยากรหลังถูกแบนโดยอัตโนมัติ
Backup account for Miner pick later ❌ ปิดเสมอ ตัวเลือกนี้ใช้เฉพาะ Level Mode; Miner Mode ไม่ใช้ Store สำรองแบบเลือกย้อนหลัง

ตัวเลือก MINING HOURS

[+] MINE HIT & RUN

โหมดการทำงานเพียงรูปแบบเดียวสำหรับ Miner Mode

  • ขุดต่อเนื่องโดยไม่มีเงื่อนไขเวลา
  • เหมาะสำหรับการขุดระยะยาวต่อเนื่อง
  • ไม่ต้องกังวลเรื่องเวลาหมด

ระบบคำนวณเวลาอัตโนมัติ

ระบบมีความสามารถในการคำนวณเวลาอัตโนมัติ โดยวิเคราะห์จากข้อมูลต่อไปนี้:

ข้อมูลที่ระบบวิเคราะห์

  • ช่วงเวลารอบการขุดของบัญชี
  • ประวัติเวลาที่ขุดทั้งหมด
  • เวลาขุดล่าสุด
  • ข้อมูลการขุดครึ่งชั่วโมง
  • สถิติการถูกแบนในระบบ

การคำนวณรอบเวลา

  • ระบบประเมินช่วงเวลารอบการแบนจากประวัติ
  • คำนวณเวลา claim ถัดไปโดยอัตโนมัติ
  • ปรับเวลาให้ตรงกับนาทีที่ :29 หรือ :59
  • หลีกเลี่ยงการขุดในช่วงเวลาที่มีความเสี่ยงสูง

หลักการคำนวณเวลา claim

สถานการณ์ การทำงานของระบบ
รอบการขุดยาว (90+ นาที) และผ่านไปนานพอ คำนวณเวลาที่เหมาะสม ปรับให้ตรงนาที :29 หรือ :59
รอบการขุดปานกลาง (20+ นาที) กำหนด claim ตามช่วงเวลา 2-4 ชั่วโมง ขึ้นกับเวลาที่ผ่านไป
รอบการขุดสั้น (< 30 นาที) คำนวณจากเวลาขุดล่าสุด + รอบการขุด
รูปแบบครึ่งชั่วโมง ใช้นาที :29
กรณีทั่วไป ใช้นาที :59 ของชั่วโมงปัจจุบัน

กลไกคาดการณ์และปรับตัวอัตโนมัติ

การคาดการณ์ Ban Wave: ระบบสามารถคาดเดาและทำนายรอบการแบนได้ในระดับหนึ่ง โดยวิเคราะห์จากสถิติและประวัติการถูกแบนที่ผ่านมา

ความยืดหยุ่นในการปรับรอบ: หากรอบการแบนเปลี่ยนแปลงไป ระบบจะปรับรอบการขุดให้สอดคล้องกับ Ban Wave ใหม่โดยอัตโนมัติ เพื่อรักษาความปลอดภัยของบัญชี

หมายเหตุ: ระบบจะชดเชยเวลาตามประเภท Wallet โดยอัตโนมัติ | เลือกนาที :29 หรือ :59 ตามความเหมาะสมของแต่ละบัญชี

กลไก ลำดับและขั้นตอนการทำงาน

1
ระบบ Store ตรวจสอบบัญชีว่า Claim Cooldown สิ้นสุดหรือยัง
2
เมื่อ Claim Cooldown หมด ระบบตรวจสอบว่ามี Team Pool Miner (Wallet Type + Rare Level ตรงกัน) รอขุดหรือไม่
3
หากมี Miner Team ที่ตรงเงื่อนไข → ระบบนำบัญชีกลับเข้ามาอัตโนมัติ
4
Miner Mode ดำเนินการขุดแบบ HIT & RUN ต่อเนื่อง
5
เมื่อจบรอบ → เคลม Reward และเคลียร์ทรัพยากรกลับ Master Key

ระบบ Automatic Replace Account (กลไกหลัก)

Automatic replace account

  • เป็นกลไกหลักที่ทำงานใน Miner Mode เท่านั้น (เปิดเสมอ)
  • การทำงาน: เมื่อบัญชีปัจจุบันถูก Flag หรือจบรอบขุด → ระบบจะตรวจหาบัญชีที่พร้อมมาทดแทน หากไม่มีบัญชีพร้อม ระบบจะเคลียร์สถานะและเก็บบัญชีไว้รอ
  • เงื่อนไข: ต้องมี Master Key พร้อม (WAX > 5)
  • ทำงานร่วมกับ: Level Mode ที่เปิด Backup account for Miner pick later

เมื่อบัญชีจบรอบขุดหรือถูก Flag ระบบ MANAGE WAIT/OPEN LIST จะทำงานดังนี้:

1
ระบบตรวจพบว่าบัญชีปัจจุบันจบรอบขุด หรือถูก Flag/Ban
2
เคลม Reward ที่เหลือ และเคลียร์ทรัพยากร (CPU/NET/RAM/NFT) กลับ Master Key
3
ระบบตรวจหาบัญชีอื่นที่พร้อมจบ Cycle พร้อม Claim
มีบัญชีพร้อม
เปลี่ยนไปใช้บัญชีใหม่ ดำเนินการขุดต่อ
ไม่มีบัญชีพร้อม
เคลียร์สถานะบัญชีหลัก/บัญชีดำเนินการ และเก็บบัญชีที่ยังไม่พร้อมขุด (ติด Claim Cooldown หรือเงื่อนไขอื่น) ไว้ในรายการสมาชิกทีม
4
ระบบตรวจสอบเงื่อนไข: Master Key มี WAX > 5
5
สร้างบัญชี WCW ใหม่อัตโนมัติ พร้อมจัดสรร WAX และทรัพยากรให้
6
บัญชีใหม่เข้าสู่ Level Mode เพื่อเก็บ Level ก่อน → จากนั้นวนกลับมา Miner Mode

ความสัมพันธ์ระหว่าง Level Mode และ Miner Mode

Level Mode ทำหน้าที่เป็น Producer - สร้างและเก็บ Level บัญชีให้พร้อมใช้งาน

Miner Mode ทำหน้าที่เป็น Consumer - รับบัญชีที่พร้อมแล้วมาขุดต่อ และกระตุ้นให้สร้างบัญชีใหม่เมื่อจบรอบ

จุดเด่น

  • หมุนเวียนบัญชีอัตโนมัติ ไม่ต้องจัดการด้วยตนเอง
  • มีระบบสำรองบัญชี (Store Account) รอ Claim Cooldown
  • เหมาะสำหรับการทำงานต่อเนื่องระยะยาว
  • ป้องกันการสูญเสียทรัพยากรเมื่อถูก Ban

ฟีเจอร์เสริมที่ใช้ได้ทั้งสองโหมด

ระบบ Ban Wave Protection

ระบบป้องกันการถูก Ban โดยใช้กลไกการคำนวณเวลาอัตโนมัติใน Miner Mode เพื่อกำหนดเวลา claim ล่วงหน้าให้หลีกเลี่ยงช่วง Ban Wave ในแต่ละรอบ Cycle

กลไกการทำงาน

  • ทำงานร่วมกับ ระบบคำนวณเวลาอัตโนมัติ ใน Miner Mode
  • วิเคราะห์ช่วงเวลารอบ Ban Wave จากประวัติการถูกแบน
  • กำหนดเวลา claim ให้ตรงนาทีที่ :29 หรือ :59 เพื่อหลีกเลี่ยงช่วงเสี่ยง
  • ปรับเวลาขุดให้อยู่นอกช่วง Cycle ที่มีความเสี่ยงสูง

ข้อมูลที่ใช้วิเคราะห์

  • ช่วงเวลารอบการขุดของบัญชี (Cooldown)
  • ประวัติเวลาที่ขุดทั้งหมดและเวลาขุดล่าสุด
  • ข้อมูลการขุดครึ่งชั่วโมง (Half-hour pattern)
  • สถิติการถูกแบนในระบบ

หลักการคำนวณเวลา claim ก่อน Ban Wave

  • ใช้เวลาจากระบบคำนวณเวลาอัตโนมัติ
  • ดึงนาทีที่ :29 หรือ :59 ที่อยู่ก่อนช่วง Ban Wave เพื่อเคลมก่อน แล้วจึงพักหลบช่วงเสี่ยง
  • ปรับตามประเภท Wallet อัตโนมัติ

เงื่อนไขการ Claim ก่อน Ban Wave

ระบบสามารถกำหนดเวลา Claim ล่วงหน้าให้ก่อน Ban Wave มาถึงได้ โดยอาศัยการคำนวณ ประเมิน และวิเคราะห์ข้อมูลจากประวัติการถูกแบน, รอบ Cooldown, และสถิติการขุดของบัญชี เพื่อคาดการณ์ช่วงเวลาที่ Ban Wave จะเกิดขึ้น แล้วกำหนดเวลา Claim ให้ก่อนช่วงนั้น

ระบบจะทำการ Claim เมื่อถึงอย่างน้อยหนึ่งเงื่อนไขต่อไปนี้:

TIME OVER (เงื่อนไขตามเวลา)
  • ระบบคำนวณเวลา Claim ล่วงหน้าให้หลบ Ban Wave
  • เมื่อถึงเวลาที่กำหนด ระบบจะทำการ Claim ทันที
  • ใช้นาทีที่ :29 หรือ :59 เพื่อหลบช่วงเสี่ยง
REWARD OVER (เงื่อนไขตาม MIN. CLAIM)
  • เมื่อ TLM สะสมถึงค่า MIN. CLAIM ที่ตั้งไว้
  • ระบบจะทำการ Claim ทันทีโดยไม่รอเงื่อนไขเวลา
  • ช่วยเก็บ Reward ก่อนที่จะถูก Ban Wave

การตั้งค่า MIN. CLAIM:

Level Mode: ใส่ค่าใดก็ได้ (แนะนำ 0) — MIN. CLAIM ไม่มีผลกับ Level Mode เพราะขุดเพื่อเก็บ Shards เท่านั้น ไม่มีกลไกเครม TLM

Miner Mode: กำหนดยอด TLM สะสมที่ต้องการให้เครมทันที โดยไม่สนรอบเวลา

ตัวอย่าง: ตั้ง MIN. CLAIM = 5 และขุดครั้งเดียวได้ 5 TLM → ระบบจะเครมทันทีโดยไม่รอครบรอบ 20 นาที

  • 0 — สำหรับ WCW จะใช้ค่า default = 22 TLM (ระบบจะตั้งให้อัตโนมัติ)
  • 25555 — เป็นค่าที่เข้าถึงไม่ได้จริง ทำให้ใช้เฉพาะเงื่อนไขเวลาเท่านั้น
  • ค่าอื่นๆ — ระบบจะ Claim ทันทีเมื่อ TLM สะสมถึงค่าที่ตั้งไว้

หมายเหตุ

ระบบนี้ทำงานอัตโนมัติใน Miner Mode โดยใช้ข้อมูลจากระบบคำนวณเวลาเพื่อหลีกเลี่ยง Ban Wave ในแต่ละรอบ Cycle

ระบบ Clear on Ban

ระบบป้องกันการสูญเสียทรัพยากรเมื่อบัญชีถูกแบน โดยอัตโนมัติ

วัตถุประสงค์หลัก

  • ป้องกันการสูญเสียทรัพยากร (CPU, NET, RAM) และ NFT ที่ยังคงหลงเหลืออยู่ในบัญชี
  • โอนทรัพยากรทั้งหมดกลับคืน Master Key อย่างปลอดภัย
  • ลดภาระในการจัดการบัญชีที่ถูกแบนด้วยมือ

ขั้นตอนการทำงานอัตโนมัติ

1
ตรวจจับสัญญาณบัญชีถูกแบน (Flag/Ban)
2
พยายามเคลม Reward ครั้งสุดท้ายก่อนการแบนสมบูรณ์
3
ตรวจสอบและนับทรัพยากรทั้งหมดในบัญชี
4
โอน CPU, NET, RAM กลับไปยัง Master Key
5
โอน NFT ทั้งหมดออกจากบัญชีที่ถูกแบน
6
บันทึกรายงานการดำเนินการเพื่อตรวจสอบ

ข้อควรทราบ

  • จำเป็นต้องมี Resource ใน Master Key: Master Key ต้องมี CPU/NET เพียงพอในการดำเนินการ Transaction ดึงของกลับ
  • ทำงานอัตโนมัติเสมอ: ใน Miner Mode ฟีเจอร์นี้จะเปิดใช้งานโดยไม่สามารถปิดได้
  • ประสิทธิภาพสูงสุด: ออกแบบมาเพื่อลดความเสี่ยงและรักษาทรัพยากรให้คงอยู่ในระบบของคุณ

ประโยชน์ที่ได้รับ

  • ป้องกันการสูญเสียทรัพยากรอันมีค่า
  • รักษามูลค่าทรัพย์สินให้อยู่ในระบบ
  • ลดภาระการบริหารจัดการบัญชีที่มีปัญหา
  • ทำงานอัตโนมัติตลอด 24 ชั่วโมง

สรุปความแตกต่างระหว่างสองโหมด

Level Mode

เหมาะสำหรับ

  • ผู้ที่ต้องการควบคุมคุณภาพตามระดับ
  • งานที่เน้นความแม่นยำของผลลัพธ์
  • การจัดกลุ่มบัญชีตามความสามารถ
  • เน้นการสร้างบัญชีเพื่อส่งต่อ (Account Producer)

เลือกใช้เมื่อ

  • คุณภาพสำคัญกว่าปริมาณ
  • ต้องการแยกบัญชีตามระดับ
  • ไม่ต้องการนับชั่วโมง

Miner Mode

เหมาะสำหรับ

  • ผู้ที่ต้องการขุดตามระยะเวลาที่กำหนด
  • ต้องการระบบสำรองบัญชี
  • การทำงานต่อเนื่องระยะยาว
  • เน้นความปลอดภัยและทำกำไรสูงสุด (Safety & Profit)
  • เน้นการนำบัญชีมาใช้งานจริง (Account Consumer)

เลือกใช้เมื่อ

  • ต้องการความยืดหยุ่นในการกำหนดเวลา
  • ต้องการระบบสำรองบัญชี
  • เน้นความต่อเนื่องในการทำงาน

คำถามพบบ่อย — Q&A

  • Q เริ่มต้นต้องทำอะไรบ้าง?
    A เพิ่มบัญชี seed 1–2 บัญชีใน Pool/Store เพื่อให้ระบบเริ่มทำงานแน่ ๆ; เปิดโหมดเติมอัตโนมัติภายหลังได้ หากเงื่อนไขพร้อมระบบจะสร้าง/เติมให้เอง
  • Q ไอดีเลเวลครบแล้ว ใช้กับ WCW ต้องตั้งค่าอย่างไร?
    A เพิ่มเข้า Pool/Store ได้ทันที ถ้าเปิด Team Pool (Miner Mode) ระบบจะเลือกบัญชีที่ตรงระดับที่ตั้งไว้ | สำหรับ WCW ต้องเปิด Make Trust และปิด Headless
  • Q Rare + Epic ใช้ร่วม Pool ได้ไหม?
    A คาดว่าทำงานร่วม Pool ได้ แต่ยังไม่ทดสอบครบ แนะนำทดสอบย่อย ตั้ง Rare Type/Tool Level ให้ตรง และตรวจ cooldown/claim ไม่ชนกัน
  • Q ทำไมเปิด Auto-Fill แล้วระบบยังไม่สร้างบัญชีเพิ่ม?
    A
    ตรวจสอบ 5 ข้อ:
    1. Master Key มี WAX > 5
    2. ชื่อ Master Key ไม่มี .wam
    3. ตั้งค่าทีมให้ Auto-Create แล้ว (srese/rescu)
    4. มีช่องว่างในบอท ≥ 2 ช่อง
    5. มีบัญชีในระบบแล้วอย่างน้อย 2 บัญชี
  • Q ระบบ/กลไก Ban Wave Protection จะไม่โดนแบนแน่นอนใช่ไหม?
    A ไม่ใช่การันตี 100% แต่เป็นการ "ลดความเสี่ยง" โดยระบบจะคำนวณเวลาให้หลบช่วงที่เกมมักจะตรวจสอบ (Wave) เพื่อให้ปลอดภัยขึ้น
  • Q บัญชีที่ถูกส่งไป Store จะถูกดึงกลับมาขุดต่อเมื่อไหร่?
    A ระบบจะรอจนกว่า Cooldown (Claim Cooldown) ของบัญชีนั้นจะหมด จึงจะดึงกลับเข้ามาใน Miner Mode ให้อัตโนมัติ
  • Q Master Key ต้องมี CPU/NET ไหม เพื่อรับของคืนจากไอดีที่โดนแบน?
    A จำเป็นต้องมี Resource เพียงพอใน Master Key เพื่อดำเนินการ Transaction ดึงของกลับครับ
  • Q เพิ่มบัญชี WCW เข้า Pool แล้ว ต้องโอน WAX เองไหม?
    A รอบแรกต้องโอนเอง เพราะระบบมองว่าบัญชีนั้นไม่ได้มาจากการจัดการของบอท จึงไม่รู้เจตนาชัดเจน ระบบจะจัดการ WAX และทรัพยากรให้อัตโนมัติก็ต่อเมื่อบัญชีนั้นสร้างผ่านระบบ Team Pool มาเท่านั้น
  • Q ลงทะเบียนบัญชี WCW แล้ว แต่ Team Pool ไม่เลือกบัญชีไปทำงาน?
    A ตรวจสอบการตั้งค่า Headless: บัญชี WCW ที่จะใช้กับ Team Pool ต้องปิด Headless และเปิด Make Trust หากเปิด Headless ไว้ Team Pool จะไม่เลือกบัญชีนั้นไปทำงาน ให้ปิด Headless แล้วบัญชีจะถูกเลือกเข้าระบบโดยอัตโนมัติ
  • Q Miner Mode จะเลือกบัญชีมาขุดเมื่อไหร่?
    A
    ระบบจะเลือกบัญชีมาขุดเมื่อครบทุกเงื่อนไขต่อไปนี้:
    • Level ตรง Rare Type: บัญชีมี Level ครบตามระดับที่ Team Pool Miner Mode กำหนด
    • Claim Cooldown หมด: บัญชีสิ้นสุด Claim Cooldown 72 ชั่วโมงแล้ว
    • บัญชีไม่ติด Mining Cooldown: บัญชีไม่ติด Cooldown จากการขุดล่าสุด
    • Tool ไม่ติด Cooldown: Tool ของ Team Miner Mode ไม่ติด Mine Cooldown จากการขุดรอบล่าสุด
    หมายเหตุ: มีองค์ประกอบ Cooldown ที่เกี่ยวข้อง 2 ส่วน คือ Account Cooldown และ Tool Cooldown (Mine Cooldown)
  • Q ทำไมเปิด Backup account for Miner pick later แล้วบัญชีไม่ถูกส่งไป Store?
    A ต้องมี Miner Mode อย่างน้อย 1 ทีมที่เปิดใช้งานและมี Wallet Type + Rare Type ตรงกันกับ Level Mode ที่ตั้งค่าไว้ หากไม่มี Miner Mode ที่ตรงเงื่อนไข ระบบจะไม่เก็บบัญชีเข้า Store เพื่อป้องกันบัญชีค้างอยู่โดยไม่มีปลายทาง
  • Q MIN. CLAIM ใน Level Mode และ Miner Mode ต้องใส่ค่าอะไร?
    A
    Level Mode: ใส่ 0 (หรือค่าใดก็ได้) เพราะ Level Mode ไม่มีกลไกเครม TLM — ขุดเพื่อเก็บ Shards สะสม Level เท่านั้น

    Miner Mode: ใส่ 0 หรือค่าที่ต้องการ
    • MIN. CLAIM = จำนวน TLM ขั้นต่ำที่ต้องสะสมก่อนเครม
    • ถ้ายอดสะสมถึงค่านี้ → ระบบเครมทันทีโดยไม่สนรอบเวลา
    • ตัวอย่าง: ตั้ง MIN. CLAIM = 5, ขุดครั้งเดียวได้ 5 TLM → ระบบเครมเลย

    เงื่อนไขสิ้นสุดการขุด Miner Mode:
    1. ครบรอบเวลา (Mining Hours) หรือ Cooldown เกินเวลา Ban Wave ที่กำลังจะมา
    2. ครบยอดสะสมจาก MIN. CLAIM
  • Q บอทเคลมไปแล้ว แต่ไม่ได้เคลียร์บัญชีออกไปจากบอท ปกติไหม?
    A
    ปกติครับ — เป็นพฤติกรรมที่ออกแบบไว้โดยตั้งใจ

    เหตุผล: บัญชีที่เคลมแล้วจะยังคงอยู่ในระบบชั่วคราว จนกว่าจะมีบัญชีอื่นพร้อมมาทดแทน หากไม่มีบัญชีพร้อม ระบบจะเคลียร์สถานะทีมและเก็บบัญชีไว้รอ ด้วยเหตุผลหลัก 2 ข้อ:
    • สังเกตสถานะล่าสุด: ทีมต้องการเก็บข้อมูลบัญชีล่าสุดที่ขุดไว้เพื่อดูสถานะและประวัติการทำงาน
    • ความปลอดภัย: การคงบัญชีไว้ในระบบช่วยให้มั่นใจว่าทีมยังมีบัญชีอ้างอิงอยู่ ป้องกันปัญหาที่อาจเกิดจากการลบบัญชีทิ้งก่อนที่จะมีบัญชีใหม่มาทดแทน


    กลไกการทำงาน:
    • ระบบจะตรวจหาบัญชีอื่นที่พร้อมจบ Cycle พร้อม Claim
    • หากมีบัญชีพร้อม → เปลี่ยนไปใช้บัญชีใหม่
    • หากไม่มีบัญชีพร้อม → เคลียร์สถานะทีม และเก็บบัญชีไว้รอในรายการสมาชิก
    • เมื่อมีบัญชีพร้อม → ระบบจะดึงบัญชีจากรายการสมาชิกมาทำงานต่อ

    เงื่อนไขทั้งหมดก่อนลบบัญชี:
    1. ไม่มีทีมใดใช้งานบัญชีนี้อยู่
    2. บัญชีจบรอบขุดแล้ว
    3. ไม่มี Tool ติดอยู่ในบัญชี
    4. ไม่มีงานเคลียร์ทรัพยากรค้างอยู่
    5. มีบัญชีใหม่พร้อมมาทดแทน

    สรุป: หากมีบัญชีพร้อม ระบบจะเปลี่ยนไปใช้บัญชีใหม่ทันที หากไม่มีบัญชีพร้อม ระบบจะเคลียร์สถานะทีมและเก็บบัญชีไว้รอในรายการสมาชิก เพื่อให้ Team Pool สามารถสังเกตสถานะบัญชีล่าสุดได้